วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2559

วัดพระธรรมกายในประเทศไทย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย

 
พระอินทะยานะ เมืองทวาย ประเทศเมียนม่าร์  Ven Aeindanyana, Abbot of Yinggay Meditation Center, Dawei, Myanmar

      อาตมาอยากจะพูดถึง2 ประเด็น  คือ    1. เกี่ยวกับเรื่องวัดพระธรรมกายในประเทศไทย  และ   2. เรื่องของเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายเรื่องแรกอยากจะเล่า  คือ
        วัดพระธรรมกายไม่ได้เป็นที่รู้จักแค่ในประเทศไทย  แต่เป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก และอาตมาเห็นว่าน่าจะเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของโลกด้วยเพราะว่าเป็นวัดที่ได้ รับความยกย่อง  สรรเสริญจากนานาประเทศทั่วโลก เป็นวัดที่สุดยอด  เป็นต้นแบบที่ดี และที่สำคัญเป็นวัดที่มีการเผยแผ่พระพุทธศาสนามาโดยตลอดและจะเผยแผ่พระพุทธ ศาสนาตลอดไปเป็นต้นแบบ เป็นตัวอย่างที่ดีของพระพุทธศาสนาทั่วโลก  การมีวัดพระธรรมกายในประเทศไทย   ต้องถือว่าเป็นความน่าอัศจรรย์  เป็นความภาคภูมิใจ และเป็นความโชคดีของชาวไทยอย่างมาก ที่มีวัดพระธรรมกายก่อตั้งขึ้นในประเทศนี้
          อาตมาได้มีโอกาสมาวัดพระธรรมกาย  ไม่ใช่แค่เพียงมาเที่ยวเล่น แต่อาตมาได้มาศึกษาธรรมะคำสอนของวัดพระธรรมกาย ได้มาเรียนรู้ศึกษาแก่นแท้ของวิชชาธรรมกายเป็นระยะเวลากว่า 10 ปีมาแล้วพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากล่าวว่า “ถ้าเราไม่เห็นด้วยตา  ไม่ได้สัมผัสด้วยมือ   ก็อย่าไปเชื่อสิ่งที่คนอื่นเขาเล่าต่อๆกันมา  ควรมาสัมผัสด้วยตนเอง”  ในยุคปัจจุบันที่มีสื่อต่างๆ อาทิเช่น ข่าวออนไลน์  หนังสือพิมพ์ อินเตอร์เน็ต โทรทัศน์เป็นต้น  ควรมีวิจารณญาณในการเสพสื่อเหล่านั้น  บางครั้งสื่อก็นำเสนอข่าวในสิ่งที่ไม่จริง  ถ้าไปเชื่อในสิ่งที่ไม่จริง  เขาเรียกว่าคนที่ไม่มีปัญญา  และไม่มีความคิด ไม่รู้จักค้นหาความเป็นจริง  อาตมาเองก็ได้ฟังข่าวที่ดีและข่าวไม่ดีของวัดพระธรรมกายจากคนภายนอก บางท่านพูดถึงวัดพระธรรมกายในด้านที่ดี ยกย่องสรรเสริญ  แต่บางท่านก็ไม่ได้ยกย่องสรรเสริญ  แต่ก็ยังไปเล่าในสิ่งที่ไม่จริง บิดเบือน พูดให้ร้ายวัดพระธรรมกายกับบุคคลอื่นๆ  คนที่เคยมาวัด ได้มาสัมผัสว่าวัดดีจริง ก็ไปเล่าในสิ่งดีๆของวัดพระธรรมกาย

         แต่เมื่ออาตมาได้มาสัมผัสกับวัดพระธรรมกายด้วยตนเอง  วัดพระธรรมกายนั้นอัศจรรย์มาก   เป็นวัดที่พระพุทธศาสนาจะขาดไม่ได้เลย  ไม่มีวัดไหนจะนำมาเปรียบเทียบได้เลย  เป็นวัดที่มีการเผยแผ่พระพุทธศาสนาครบทุกด้าน  แม้แต่รัฐบาลยังไม่สามารถทำแบบนี้ได้เลย  เพราะหลวงพ่อและพระอาจารย์ทุกรูป  ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด   อาตมาคิดว่าสำหรับชาวไทยนั้น การมีวัดพระธรรมกายเป็นสิ่งที่ประเสริฐมาก  และจะทำให้พระพุทธศาสนาในประเทศไทยมีความมั่นคงและเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปอีก ยาวนานอยากฝากบอกกับชาวไทยทุกคนว่า เพื่อความเจริญรุ่งเรือง  เพื่อความสว่างไสวของพระพุทธศาสนาในประเทศไทย
           ชาวไทยต้องช่วยกันปกป้องรักษาพระพุทธศาสนาให้ดีเพราะอาตมาไม่ได้ไปสถานที่ เพียงที่เดียว  ไม่ได้รู้จักบุคคลเพียงบุคคลเดียว  อาตมาได้รู้จักกับหลายประเทศ  หลายคนแล้ว อาตมาได้เห็นวิสัยทัศน์ทั้งพระและโยมของแต่ละที่ที่ได้เดินทางไป เมื่ออาตมาได้เห็น ได้รับรู้อะไรหลายอย่างแล้ว   สำหรับในประเทศไทยถ้าไม่มีวัดพระธรรมกายแล้ว  พระพุทธศาสนาก็จะไม่ได้เจริญรุ่งเรืองไม่ได้รับการฟื้นฟู และสุดท้ายพระพุทธศาสนาก็จะเสื่อมลงและอาจจะกลายเป็นอดีตเมืองพุทธเหมือน หลายประเทศอาตมาได้มีโอกาสคุยกับพระผู้ใหญ่ในประเทศไทยหลายรูป  ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ถ้าไม่มีวัดพระธรรมกายในประเทศไทย  ก็อาจไม่มีพระพุทธศาสนาเหมือนกัน
         สำหรับคนที่ไม่เคยมาวัดพระธรรมกาย  ท่านต้องเข้ามาสัมผัสด้วยตนเอง ว่าวัดพระธรรมกายทำอะไรบ้าง  จะได้รู้ความเป็นจริง  เพราะไม่มีประเทศใดในโลกจะสามารถทำกิจกรรมงานบุญต่างๆได้ยิ่งใหญ่เหมือนกับ วัดพระธรรมกายได้อีกแล้ว  และจะได้ดู ได้เห็น ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาในประเทศพม่า พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองก็จริง มีพระภิกษุมากก็จริง แต่ไม่สามารถที่จะจัดพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาแบบวัดพระธรรมกายได้เลย  ที่นำพระพุทธศาสนาเผยแผ่ไปทั่วโลก  วัดพระธรรมกายมีการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไป ทั่วโลกกว่า 80 ประเทศ  วัดพระธรรมกายได้สร้างสันติภาพ  ความสงบสุขให้แก่ชาวโลกและเป็นแสมือนศูนย์กลางเชื่อมต่อชาวพุทธทุกคน  พระภิกษุจากประเทศเมียนมาร์ทุกรูปที่ได้มาเรียนรู้ มาสัมผัสกับวัดพระธรรมกายด้วยตนเอง  พอได้มาเห็นแล้ว  ทุกรูปต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า  สิ่งที่ได้ทราบมานั้นมันไม่จริงเลย  เมื่อได้มาทราบความจริงแล้วพระสงฆ์จากประเทศเมียนมาร์ทุกรูปต่างชื่นชม  ยกย่อง สรรเสริญวัดพระธรรมกายเป็นอย่างยิ่ง
        หากวัดพระธรรมกายมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น  พระภิกษุทุกรูปจากเมียนมาร์ต่างก็พร้อมที่จะร่วมมือร่วมใจกันปกป้องพระพุทธ ศาสนา และวัดพระธรรมกายกันอย่างเต็มที่เต็มกำลัง ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลยที่จะได้มี โอกาสพบกับหลวงพ่อธัมมชโย  แต่อาตมาได้คุยกับท่าน ได้พบกับท่านบ่อยครั้ง เมื่อได้รู้จักกับหลวงพ่อแล้ว ยิ่งคุย ยิ่งมีความศรัทธาต่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย  เพราะท่านรักชาวไทยมาก และรักพระพุทธศาสนามาก หลวงพ่อยังเมตตาพูดอีกว่า พระภิกษุที่อยู่ในประเทศไทยทั้งหมดหลวงพ่ออยากจะดูแล  อยากสนับสนุน ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเท่านั้นหลวงพ่ออยากจะดูแล และสนับสนุนพระภิกษุทั่วโลกเลย

        ถ้าเราอยากจะรู้ความคิด วิสัยทัศน์ของบุคคลนั้น เราก็ต้องได้พูดคุย พออาตมาได้คุยกับหลวงพ่อแล้ว  ก็ทราบทันทีว่าหลวงพ่อธัมมชโยท่านมีความเมตตากับชาวไทยและมีความรักในพระ พุทธศาสนาเป็นอย่างมาก  หลวงพ่อท่านก็  “พูดจริง  ทำจริง  ปฏิบัติให้เห็นจริงๆ”สิ่งที่หลวงพ่อสอนลูกๆ ทุกคน เป็นคำสอนที่มีคุณค่ามาก เป็นสิ่งที่น่าปฏิบัติตาม เป็นระเบียบวินัยที่ดีมาก  ไม่มีใครสามารถทำได้อย่างท่าน  ท่านเก่งมาก  ถ้าสมมุตติว่า มีคนมาใส่ร้าย และทำร้ายท่าน ไม่ให้ท่านปฏิบัติภารกิจได้ต่อไป  สำหรับชาวพุทธแล้วเป็นสิ่งที่น่าเสียดาย และเศร้าสลดใจเป็นอย่างมากเมื่อได้มาสัมผัสกับหลวงพ่อธัมมชโย กับข่าวที่ได้ทราบมานั้น  ช่างแตกต่างกันคนละเรื่องเลย เพราะหลวงพ่อท่านไม่ต้องพูดอะไรมากมาย ท่านมีศีล  สมาธิ ปัญญาครบและสมบูรณ์
       แม้อาตมาเป็นพระเหมือนกัน เมื่อได้เห็นหลวงพ่อธัมมชโยแล้ว ก็เกิดความศรัทธาและเคารพเป็นอย่างสูง  ใครที่ได้มากราบหลวงพ่อ ต่างก็มีความศรัทธาต่อท่าน เพราะท่านมีความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา   ทำประโยชน์เพื่อทุกคนชาวโลก  ขนาดพระเมียนมาร์ที่ได้มากราบหลวงพ่อธัมมชโยแล้ว ก็ได้เห็นถึงความมีศีล  สมาธิ และปัญญาของท่าน พระทุกรูปต่างก็ให้ความเคารพและศรัทธาต่อหลวงพ่อท่านเป็นอย่างยิ่ง ท่านเป็นบุคคลที่น่าศรัทธา  น่าเคารพ  อาตมาเองก็มีแต่ความบริสุทธิ์ใจและศรัทธาต่อท่านด้วยความเคารพ  หากใครที่ไม่ได้มาใกล้ชิดท่าน ไม่ได้มาวัด ไม่ได้รับทราบข้อมูลที่แท้จริงจากภายในวัด  ได้ทราบแต่ข้อมูลที่ไม่จริงจากสื่อต่างๆ  แล้วมาว่าหลวงพ่อ มาพูด มาว่า  มากล่าวโทษให้คนอื่นไม่ศรัทธาท่าน ถ้าท่านใดพูดแบบนี้ อาตมาดูแล้ว สำหรับเขาเป็นสิ่งที่น่ากลัวมากๆ เพราะหลวงพ่อท่านมีศีล มีบารมีสูง  สำหรับใครที่ทำแบบนี้ อาตมารู้สึกหนักใจและสงสารพวกเขาเหล่านั้นจริงๆ ถ้าเราจับผิด หรือให้ร้ายกับ ผู้มีศีล ผู้มีบารมีสูง   ผลของกรรมนั้นก็จะหนักนะเรื่องการถวายปัจจัยที่พูดถึงกันอยู่ 
          อาตมาได้ทราบมายาวนานมากแล้วจากการพูดต่อๆ กันมาจากภายนอก  ทั้งข่าวในโทรทัศน์ สื่อต่างๆ  มีแต่คนบอกว่าอย่าไปวัดพระธรรมกายนะ  วัดไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้  อาตมาได้ฟังมาเยอะ  อาตมาก็ได้อธิบายให้ทุกคนที่มาพูดฟังอย่างชัดเจน ว่าพวกเธอที่ได้เห็น ได้ฟังมา แต่ละเรื่องบางอย่างมันไม่จริง มันคนละเรื่องกันเลย  ถ้าเชื่อไปตามนั้น ก็มีวิบากกรรมกันไป การที่พระรับปัจจัยจากโยม  ในสมัยพระพุทธกาล พระพุทธเจ้าไม่ได้ดำริว่าเป็นความผิดทางพระวินัยแต่อย่างไร  และการที่หลวงพ่อธัมมชโยท่านรับปัจจัยจากญาติโยม ก็ไม่ได้มีความผิดอะไร
          ถ้าเป็นอาตมาเอง ก็รับเช่นเดียวกัน ไม่สามารถปฏิเสธได้ เพราะนั่นเป็นศรัทธาและเจตนาของญาติโยมที่จะถวายให้พระ  สิ่งที่ญาติโยมนำมาถวายนั้นจะได้มาด้วยวิธีใดนั้นอาตมาเองก็ไม่ทราบ ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปถามเขา จะไปตรวจสอบก็ไม่ได้    ถ้าเป็นอาตมาเองเมื่อมีคนมาถวายก็ต้องรับเช่นกัน   คนที่มาถวายก็มีจิตศรัทธาที่จะถวายเพื่อพระศาสนา ไม่ได้ถวายเพื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หลวงพ่อเองก็นำปัจจัยที่ได้จากการถวายมาทั้งหมดไปเพื่อการเผยแผ่พระพุทธ ศาสนา  แต่บางคนไม่เข้าใจในพระพุทธศาสนาเลย อาตมาเลยคิดว่า คนที่ไม่เข้าใจตรงนี้  คงจะไม่ใช่ชาวพุทธแน่ๆ  ถ้าเป็นชาวพุทธแท้จะต้องอนุโมทนา สาธุการ ที่เห็นบุคคลผู้อุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนา  วัดพระธรรมกายคือ เป็นวัดที่ปฏิบัติจริงๆ  เผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั่วโลก

          ถ้าท่านใดมาทำบุญกับสถานที่ที่ปฏิบัติจริง ทำเพื่อพระพุทธศาสนาจริงๆ  ก็จะมีประโยชน์มาก ได้บุญมาก  ถ้าไปทำบุญกับสถานที่ที่ไม่มีปฏิบัติ ปริยัติ ไม่น่าศรัทธาไม่น่าเคารพนับถือ ก็จะไม่ได้บุญเต็มที่ ไม่มีประโยชน์อันใดต่อพระศาสนาเลยถ้ามาทำบุญกับสถานที่แบบวัดพระธรรมกายนี้  ได้บุญอย่างอัศจรรย์จะมีประโยชน์มาก ทั้งพระพุทธศาสนาและกับตัวของเราเอง
          อาตมาก็ขออนุโมทนา สาธุการชาวเมียนมาร์ทั่วประเทศก็อนุโมทนาบุญกับคนที่มาถวายปัจจัยกับหลวงพ่อ เพราะหลวงพ่อท่านไม่ได้ทำความผิดอะไร ไม่ได้นำปัจจัยไปใช้ส่วนตัวเลย ท่านเองก็ไม่ได้จับปัจจัยด้วยซ้ำ  อาตมาเองก็ไม่เคยจับปัจจัยเช่นกัน ปัจจัยทั้งหมดก็นำไปใช้เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา  หลวงพ่อท่านไม่ได้นำไปเลี้ยงใคร ไม่มีภาระครอบครัวที่จะต้องดูแล อาตมากล้าที่จะยืนยันอย่างชัดเจนอีกเรื่องหนึ่งก็คือวิสัยทัศน์ของหลวงพ่อ ธัมมชโย  คือ  รักพระพุทธศาสนามาก และปฏิบัติทุ่มเทเพื่อพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง  สำหรับหลวงพ่อมีแต่ให้  หลวงพ่อเอาแค่เพียง “บุญ”เท่านั้น

DhammakayaPost

วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2559

หยุด...ยุติธรรมอำมหิต

หยุด...ยุติธรรมอำมหิต

พระเทพญาณมหามุนีอุปสมบทมา ๔๗ พรรษา ทำความดีมาทั้งชีวิต ปัจจุบันอายุ ๗๒ ปีแล้ว สุขภาพก็ไม่ค่อยแข็งแรง อยู่ในช่วงปลายของชีวิต  แต่ท่านกลับถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันรับของโจร ซึ่งไม่เป็นธรรมกับท่านอย่างยิ่ง ด้วยเหตุผลดังนี้

๑. เรื่องเกิดขึ้นเพราะนายศุภชัย  ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ได้ตกเป็นผู้ต้องหาฐานลักทรัพย์นายจ้าง  โดยได้จ่ายเช็คสหกรณ์ฯออกไปยังบุคคลและองค์กรต่างๆ จำนวน ๘๗๘ ฉบับ ซึ่งมีเช็คจำนวน ๑๐ ฉบับ ที่นายศุภชัยได้นำมาทำบุญบริจาคให้พระเทพญาณมหามุนี  ซึ่งพนักงานสอบสวนดีเอสไอได้เคยมาสอบปากคำเรื่องดังกล่าวกับพระเทพญาณมหามุนีแล้ว และได้ส่งสำนวนการสอบสวนทั้งหมดไปยังอัยการ ซึ่งทางอัยการได้พิจารณาแล้วไม่สั่งฟ้องพระเทพญาณมหามุนี 
สหกรณ์ไม่ติดใจ หลวงพ่อธัมมชโย ยุติแล้วทั้งแพ่งและอาญา
แต่อยู่ๆ กลับมีการตั้งคดีใหม่ขึ้นมาในเรื่องเดิมที่ได้สอบสวนไปแล้ว  และตั้งข้อหาใหม่กับพระเทพญาณมหามุนีว่าสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันรับของโจร  เป็นการดำเนินคดีซ้ำซ้อน ขัดกับหลักกฎหมายที่ว่า กรรมเดียวจะดำเนินคดีซ้ำซ้อนไม่ได้

       

๒. ความผิดข้อหารับของโจรและฟอกเงินนั้น จะเกิดขึ้นได้เมื่อพระเทพญาณมหามุนีมีเจตนาทุจริตสมคบคิดร่วมมือกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร นำเงินของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ออกมาเพื่อประโยชน์ของตนในทางทุจริต

แต่พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นจริงแย้งกับข้อสมมติฐานนี้โดยสิ้นเชิง เพราะพระเทพญาณมหามุนีรับบริจาคโดยเปิดเผยท่ามกลางประชาชนจำนวนเรือนหมื่นเรือนแสน

ตัวท่านเองก็ไม่เคยเห็นเช็คเลย เจ้าหน้าที่การเงินเป็นผู้รวบรวมเงินสดและเช็คที่มีผู้บริจาคไปเข้าธนาคาร 

และจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างศาสนสถานรวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นๆ ของวัดตามเจตนาของผู้บริจาค 

ดังที่ได้เคยให้การไว้กับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว

๓. หากพระเทพญาณมหามุนีมีเจตนาทุจริตสมคบร่วมมือกับนายศุภชัยฯนำเงินออกมาจากสหกรณ์ฯแล้ว ก็ย่อมจะต้องพยายามปิดบังซ่อนเร้นการกระทำผิดนั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่จะร่วมมือกันกระทำความผิดโดยสั่งจ่ายเช็คของสหกรณ์ฯในชื่อของพระเทพญาณมหามุนีและวัดพระธรรมกายตามที่ปรากฏ 

เพราะหากมีการทุจริตนำเงินออกมาจากสหกรณ์ฯจำนวนมาก สุดท้ายสหกรณ์ก็จะต้องประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินอย่างรุนแรง อีกทั้งการสั่งจ่ายเงินด้วยเช็คของสหกรณ์ฯก็จะต้องมีปัญหาแน่นอน และสามารถตรวจสอบเส้นทางของเงินได้ทั้งหมด 

ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ผู้มีเจตนากระทำความผิดร่วมกันฟอกเงินหรือรับของโจรจะกระทำการจ่ายและรับเงินด้วยเช็คเช่นนั้น

๔. ยิ่งกว่านั้น ท่านไม่เคยเบิกเงินสดออกจากบัญชีของท่านเลยแม้แต่บาทเดียว 

เงินที่นายศุภชัยฯ บริจาคด้วยเช็คสหกรณ์ฯ ได้โอนผ่านบัญชีไปจ่ายบริษัทก่อสร้าง ใช้ในการก่อสร้างศาสนสถานตามเจตนาของผู้บริจาคหมดแล้ว ไม่ได้ใช้ไปเพื่อประโยชน์ส่วนตัวของท่านเลย 

ซึ่งมีเส้นทางการเงินที่ตรวจสอบได้ชัดเจนจากผลการตรวจสอบของสำนักงาน ป.ป.ง. และได้มอบหลักฐานให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว 

๕. มีคำถามว่านายศุภชัยฯบริจาคเงินมากอย่างนี้ พระเทพญาณมหามุนีและวัดพระธรรมกายไม่สงสัยหรือว่านายศุภชัยนำเงินบริจาคมาจากที่ใด 

ความเป็นจริงคือนายศุภชัยฯ ได้บริจาคเงินให้กับวัด โรงเรียน มหาวิทยาลัย หน่วยงานสาธารณกุศล และหน่วยงานของรัฐหลายแห่ง 


ทั้งนายศุภชัยฯ ไม่ใช่ผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดของวัดพระธรรมกาย เมื่อนายศุภชัยฯ แจ้งว่าประกอบธุรกิจประสบความสำเร็จจึงนำเงินมาทำบุญ ทางวัดพระธรรมกายจึงไม่ได้สงสัยที่มาของเงินบริจาค จึงรับบริจาคไว้เช่นเดียวกับผู้บริจาครายอื่นๆ  

แต่เมื่อเกิดเป็นคดีความขึ้น นายศุภชัยฯได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า เงินที่นำมาบริจาคทำบุญให้กับวัดพระธรรมกาย และพระเทพญาณมหามุนีนั้นยืมมาจากสหกรณ์ฯ และได้ใช้เงินคืนสหกรณ์ฯ ครบถ้วนแล้ว

๖. เมื่อเกิดคดีความขึ้น ทางคณะศิษยานุศิษย์ของพระเทพญาณมหามุนี เห็นว่าหากปล่อยให้เรื่องยืดเยื้อไปจนกว่าจะจบการพิจารณาของศาลจะใช้เวลานาน ทำให้สมาชิกผู้ฝากเงินสหกรณ์ฯ จำนวนมากได้รับความเดือดร้อน วัดพระธรรมกายและพระเทพญาณมหามุนีเสียชื่อเสียง 

จึงได้ตั้งกองทุนเยียวยาช่วยเหลือให้แก่สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด เต็มจำนวนเงินทั้งหมดที่นายศุภชัยฯ ได้บริจาคให้แก่วัดพระธรรมกายและพระเทพญาณมหามุนี  

โดยทำเป็นข้อตกลงในศาลจำนวนเงิน ๖๘๔.๗๘ ล้านบาท ซึ่งสหกรณ์ฯได้รับเงินไปทั้งหมดแล้ว ส่วนเงินที่เหลืออีกจำนวน ๓๗๐.๗๘ ล้านบาท คณะศิษยานุศิษย์ฯได้ตกลงกับสหกรณ์ฯ และมอบเช็คให้แก่สหกรณ์ฯ ได้รับไปเรียบร้อยแล้ว

หลังจากนั้นสหกรณ์ฯ ได้ถอนฟ้องพระเทพญาณมหามุนีและวัดพระธรรมกาย และทำหนังสือแสดงเจตจำนงไม่ประสงค์จะดำเนินคดีทั้งทางแพ่ง และทางอาญา แก่พระเทพญาณมหามุนี และวัดพระธรรมกายอีก รวมทั้งได้ทำหนังสือขอบคุณมายังคณะศิษยานุศิษย์ของพระเทพญาณมหามุนีที่มีน้ำใจเยียวยาช่วยเหลือสหกรณ์ฯ เต็มจำนวน




ดังนั้น  สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด จึงไม่ได้รับความเสียหายใดๆ ทางด้านการเงินจากเงินที่นายศุภชัยฯ นำมาบริจาคให้แก่วัดพระธรรมกายและพระเทพญาณมหามุนี
ผู้เสียหายไม่ติดใจดำเนินคดี  ซ้ำยังมีหนังสือขอบคุณ แต่ทางดีเอสไอกลับพยายามตั้งข้อหาจะเอาความผิดกับท่าน  ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

                 

       เผชิญหน้า 27/4/59 : ฟังทนาย "หลวงพ่อธัมมชโย" แจงคดีร้อน


๗. เมื่อทางดีเอสไอได้ออกหมายเรียกให้พระเทพญาณมหามุนีไปพบพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๙

ทนายความผู้รับมอบอำนาจของพระเทพญาณมหามุนี ได้ยื่นหนังสือขอเลื่อนการมาพบพนักงานสอบสวน ด้วยเหตุอาพาธโดยมีใบรับรองแพทย์เมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. 

หลังจากพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้ว ได้แจ้งกับทนายเมื่อเวลา ๑๑.๓๐ น. ว่าอนุญาตให้เลื่อนได้ ตกลงกันเป็นวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ทนายความจึงเดินทางกลับ  

แต่ราว ๑๓.๓๐ น. ทางพนักงานสอบสวนกลับโทรศัพท์แจ้งมาใหม่ว่า ไม่อนุญาตให้เลื่อนและขอออกหมายจับ โดยไม่มีการให้แพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจหรือหน่วยงานกลางอื่นใด มาตรวจอาการของพระเทพญาณมหามุนีเลยว่าป่วยจริงหรือไม่

ถามว่า ดีเอสไอรู้ได้อย่างไรว่าหลวงพ่ออาพาธจริงหรือไม่ ดีเอสไออ้างว่าเมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน ท่านยังร่วมพิธีได้ แต่ในใบรับรองแพทย์ก็ระบุชัดว่าท่านมีอาการป่วยเฉียบพลัน เหตุผลของดีเอสไอฟังไม่ขึ้นเลย สุดท้ายศาลก็สั่งไม่อนุญาตออกหมายจับ

ทำไมดีเอสไอจึงเข้มงวดกับพระผู้ใหญ่ที่ทำความดีตลอดชีวิตอย่างนี้ ท่านอาพาธอยู่ที่วัดตลอดทั้งปีไม่เคยออกจากวัดเลยแม้แต่ก้าวเดียว มาพบท่านที่วัดได้ทุกเมื่อ ทำไมต้องออกหมายจับ 

ท่านป่วยเป็นเส้นเลือดดำใหญ่ที่ขาซ้ายอุดตัน ขาข้างซ้ายใหญ่กว่าขาข้างขวา ๒ เท่าตัว เป็นเบาหวานมีแผลเรื้อรัง และเป็นโรคภูมิแพ้รุนแรง ดีเอสไอก็เคยเห็นกับตาตัวเอง เมื่อมาพบท่านที่วัดคราวก่อนแล้ว 
ทำไมจึงมาพบท่านที่วัดไม่ได้


ทำไมพนักงานสอบสวนดีเอสไอจึงเปลี่ยนคำพูด ? 
 ตอนแรกบอกว่าให้เลื่อน แล้วกลับเปลี่ยนเป็นไม่ให้เลื่อน แต่ขอออกหมายจับศิษยานุศิษย์ของพระเทพญาณมหามุนีหลายล้านคนทั่วโลกสะเทือนใจมาก 
http://clearmai.blogspot.com/2016/04/blog-post_30.html

วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2559

พระมูกูนูเวละ อนุรุทธะ เถโร เลขาธิการองค์การยุวพุทธสงฆ์โลก กล่าวถึงเหตุการณ์ในประเทศไทย ที่เกิดขึ้นกับหลวงพ่อธัมมชโย


พระมูกูนูเวละ อนุรุทธะ เถโร เลขาธิการองค์การยุวพุทธสงฆ์โลก กล่าวถึงเหตุการณ์ในประเทศไทย ที่เกิดขึ้นกับหลวงพ่อธัมมชโย



พระผู้ใหญ่จากประเทศศรีลังกาขอร้องชาวไทย หยุดทำร้ายพระพุทธศาสนา ให้ช่วยกันปกป้อง หลวงพ่อธัมมชโย

          พวกเราได้ยินว่าในประเทศไทย ได้มี ข่าวที่ไม่น่ายินดีเกิดขึ้นแก่สังคมชาวพุทธ นั่นคือ หนึ่งในผู้น่าของพระพุทธศาสนา เถรวาทของโลก พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานี ประเทศไทย ได้ประสบ เรื่องไม่น่ายินดี ประเทศไทยเป็นประเทศ

พระพุทธศาสนามีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก มีบางคนได้กล่าวหาและตัดสินใจทำสิ่งที่เลวร้าย พวกเรา ต้องการถามคนที่ทำเช่นนั้นว่าทำไปเพื่ออะไร?


          ตอนนี้เหตุการณ์นี้ได้เป็นวิกฤตของพระพุทธศาสนา ที่กำลังเกิดขึ้น จริงในประเทศไทย การทำร้ายครั้งนี้มิได้กระทำต่อหลวงพ่อธัมมชโยแต่ เพียงผู้เดียวแต่เป็นการทำร้ายต่อสังคมชาวพุทธ เพราะหลวงพ่อ ธัมมชโยมิได้กระทำความผิดอันใด ท่านมีเมตตา ท่านมีสมาธิ ท่าน ทำงานให้กับพระพุทธศาสนาไม่เฉพาะแต่ในประเทศไทย แต่ทำงานให้กับพระพุทธศาสนาทั่วทั้งโลก พวกเราเคารพท่าน



          พวกเราเชื่อมั่นในตัวหลวงพ่อ พวกเราเชื่อใจหลวงพ่อ ท่านทำงาน อย่างเป็นที่ประจักษ์ให้กับพระพุทธศาสนา เพราะเหตุใดท่านจึงต้องมา ประสบกับปัญหาเช่นนี้? อาตมภาพเชื่อว่ามีอำนาจบางอย่างจ้องจะ ทำลายพระพุทธศาสนา มิใช่แค่จะทำลายคนเพียงคนเดียว พวกเรามี ขันติธรรม เมื่อหลายปีก่อนที่ประเทศอัฟกานิสถาน มีผู้ก่อการร้ายได้ ทำลายพระพุทธรูปบามิยัน พวกเราต่างก็มีความเห็นอกเห็นใจใน สถานการณ์นั้น แต่พวกเราก็มีขันติธรรม แต่เกิดอะไรขึ้นอีก? คุณเห็น สถานการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอัฟกานิสถานเกิดขึ้นอีกครั้งตอนนี้ไหม?



          พวกเราเคารพประเทศไทย พวกเราเคารพประชาชนคนไทย แต่พวก เราไม่เคารพการกระทำที่เลวร้าย พวกเราคิดว่าประเทศไทยเป็นประเทศ เมืองพุทธที่แท้จริง พวกเรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับชาวพุทธ ภายในสังคม ของชาวพุทธด้วยกัน หลวงพ่อธัมมชโยทำงานมากมาย ท่านได้สร้าง ผลงานดีๆ ให้แก่พระพุทธศาสนา มวลมนุษยชาติ งานช่วยเหลือด้าน มนุษยธรรม งานเผยแผ่พระพุทธศาสนาและการปฏิบัติธรรม ท่านทำได้ อย่างดีมากๆ ไม่มีใครสามารถทัดเทียมท่าน ในเรืองการเผยแผ่ธรรมะ ไปทั่วโลกได้ แต่มีบางคนที่อิจฉาริษยา พวกเขากำลังใช้วิธีการทางการ เมืองเพื่อท่าลายท่าน แต่การกระทำเช่นนี้ จะไม่สามารถทำลาย หลวงพ่อธัมมชโยได้ ชื่อธัมมชโยไม่สามารถถูกทำลายได้



      อาตมภาพคิดว่าคนไทยแท้ๆ ไม่สามารถทำสิงที่ไม1น่ายินดีและ เลวร้ายเช่นนี้ได้ เพราะชาวไทยพุทธแท้ๆ นั้นเป็นผู้มีความใสปริสุทธิ์มาก คนไทยมีสายเลือดที่ดี นั่นคือสายเลือดของความเป็นชาวพุทธ ชาวไทย พุทธแท้ๆ ไม่สามารถกระทำการเช่นนี้ได้ อาตมภาพกำลังขอร้อง ประชาชนชาวไทย ได้โปรดปกป้องหลวงพ่อธัมมชโย พวกเราจะสานต่อ งานที่หลวงพ่อได้ทำเพื่อพระพุทธศาสนา พวกเราจะช่วยเหลืองานทาง พระพุทธศาสนาที่ยอดเยี่ยมของท่านอย่างเต็มที่ พวกเรารู้สึกเศร้าใจ มาก ใครกันที่กำลังสร้างกรรมอันเลวร้าย เช่นนี้? ทำไมพวกเขาถึงได้สร้าง ความน่าตื่นตระหนกเช่นนี้ ?



         พวกเราเชื่อมั่นในหลวงพ่อธัมมชโย พวกเราเชื่อใจท่าน พวกเรา ติดตามท่าน ท่านเป็นผู้น่าที่ยิ่งใหญ่ของพวกเราชาวพุทธ ทุกคนจำเป็น ต้องเข้าใจหลักความจริง ต้องคิดถึงสิงที่กำลังท่า คุณต้องคิดก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้น ต้องไม่เล่นการเมืองกับพระพุทธศาสนา พวกเรารักประเทศ ของท่าน รักประชาชนของพวกท่าน พวกเรารักประเทศของท่านเพราะ พระพุทธศาสนา ในฐานะที่เป็นตัวแทนของคณะยุวสงฆ์ทั้งหมด อาตมภาพอยากจะขอร้อง ได้โปรดหยุดทำร้ายพระพุทธศาสนา นี่ไม่ใช่ ปัญหาส่วนบุคคล คุณกำลังทำร้ายตัวคุณเองอยู่



        คุณเป็นชาวพุทธ ทำไมคุณถึงทำร้ายชาวพุทธด้วยกัน? คุณก็เป็น สมาชิกคนหนึ่งของครอบครัว คุณทำร้ายสมาชิกในครอบครัวของคุณ เอง นั่นหมายความว่าคุณทำร้ายตัวเองด้วยเช่นกัน ได้โปรดหยุดความ รุนแรง และน่าสันติสุขกลับคืนมา


      อาตมภาพขออำนวยพรให้ทุกท่าน มีชีวิตที่ดีและประสบโชคดี อาตมภาพขออวยพรให้หลวงพ่อธัมมชโยได้ทำงานเผยแผ่ธรรมะเพื่อ พระพุทธศาสนาต่อไป หลวงพ่อธัมมชโยเป็นวีรบุรุษของชาวพุทธ ไม่มีใคร สามารถทัดเทียมท่าน ในเรื่องการเผยแผ่ธรรมะได้ อาตมภาพขออวยพร ให้หลวงพ่อธัมมชโย มีอายุขัยที่ยืนยาวนาน มีสุขภาพที่ดี และประสบ ความสำเร็จในงานธรรมะของท่านอาตมภาพอยากขอให้สมาชิกทุกคนใน มูลนิธิธรรมกายได้โปรดปกป้องท่าน ได้โปรดเป็นนํ้าหนึ่งใจเดียวกับท่าน และปฏิบัติตามแนวทางของท่าน เพื่อช่วยให้ทุกคนเข้าถึงพระธรรมกาย

สื่อชาวพุทธ ฉบ้บพิเศษ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2559 หน้า 4

.เราอาจจะไม่ดีเท่าท่าน ▶แต่เราไม่เคย "หลอกขายบุญ"

"...เราอาจจะไม่ดีเท่าท่าน
▶แต่เราไม่เคย "หลอกขายบุญ"
▶"ใช้ผ้าเหลืองหากิน"
▶"บิดเบือนพระธรรม"
⏸และ"วุ่นวายกับเงินๆทองๆ..."
~~~~~~<>🕵

ข้อความข้างบนนี้ คัดลอกจากคอมเม้นต์ในเพจหนึ่ง...ของท่านผู้หนึ่ง(ที่จะไม่ระบุชื่อ) ที่ได้เข้ามาแสดงความเห็นส่วนตัวในด้านลบต่อหลวงพ่อธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย...ซึ่งผู้เขียนคิดว่า น่าจะถือเป็นตัวแทนในการที่จะได้ตอบปัญหาของบรรดาผู้ที่โจมตีหลวงพ่อโจมตีวัดพระธรรมกายโดยปราศจากข้อมูล หรือไม่เคยได้เข้ามาสัมผัสความจริงใดๆ เลย...

✍ดังนั้น ในฐานะที่ผู้เขียนเป็นสาธุชนคนหนึ่งที่ได้เข้าวัดนี้และมีประสบการณ์ตรง ไม่ได้ด้นเดาหรือฟังข่าวลือหรือตกอยู่ใต้อิทธิพลของสื่อที่ปราศจากจรรยาบรรณ ผู้เขียนเพียงอยากเล่าเรื่องและประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียนเองเพื่อชี้แจงต่อท่านเจ้าของคอมเม้นต์ข้างต้นรวมทั้งผู้อ่านบางท่านที่อาจจะมีความไม่เข้าใจเพื่อเป็นข้อมูลอีกด้านหนึ่ง...ขอฝากไว้ให้นำไปพิจารณาด้วย...🤔

...เรียนคุณ S--------g

🙏ขอโทษค่ะที่พูดมาทั้งหมดนั้น... เป็นข้อเท็จจริงที่คุณได้ประสบพบเห็นด้วยตนเองโดยตรง หรือว่าฟังจากสื่อหรือที่เขาเล่าๆกันปากต่อปาก...ถ้าเป็นเช่นนั้น คุณก็เป็นคนที่ถูกหลอกได้ง่ายกว่าคนที่เข้าวัดพระธรรมกายที่คุณคิดว่าพวกเขาถูกหลอกเสียอีก...เพราะคนที่เข้าวัดนี้...เมื่อมาถึงก็มีอาหารโรงทานที่อร่อยสะอาดให้รับประทานจนอิ่ม ฟรี‼ มีห้องน้ำที่สะอาดยิ่งกว่าห้องนอนที่บ้านของคนบางคน... เพราะสาธุชนศิษย์วัดพระธรรมกายทุกคนถูกอบรมสั่งสอนจากหลวงพ่อให้มีใจสูง ....ท่านสอนลูกๆ ว่า..."ใช้ห้องน้ำแล้วต้องให้คนที่มาใช้ทีหลัง...รู้สึกเสมือนว่าเขาเป็นคนแรกเสมอ"....🚾

☝เอาแค่เรื่องเล็กๆ แค่นี้ คุณเคยได้ยินคำสอนแบบนี้ที่ไหนหรือวัดไหนบ้างไหม? ยังไม่ต้องพูดถึงธรรมะละเอียดที่สูงขึ้นไปกว่านี้...

นอกจากรับประทานอาหารฟรีแล้ว ยังมีรถรับส่งกลับบ้านฟรี โดยหลวงพ่อใช้ปัจจัยของเจ้าภาพผู้บริจาคที่หวังเอาบุญกับหลวงพ่อที่จะได้เผยแผ่ธรรมะชักจูงให้ผู้คนหันมาเข้าวัด ถือศีลเจริญสมาธิภาวนากันมากๆ เพื่อสังคมจะได้มีแต่คนดี...

"...เราอาจจะไม่ดีเท่าท่าน
▶แต่เราไม่เคย "หลอกขายบุญ"
▶"ใช้ผ้าเหลืองหากิน"
▶"บิดเบือนพระธรรม"
⏸และ"วุ่นวายกับเงินๆทองๆ..."
~~~~~~<>🕵

ข้อความข้างบนนี้ คัดลอกจากคอมเม้นต์ในเพจหนึ่ง...ของท่านผู้หนึ่ง(ที่จะไม่ระบุชื่อ) ที่ได้เข้ามาแสดงความเห็นส่วนตัวในด้านลบต่อหลวงพ่อธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย...ซึ่งผู้เขียนคิดว่า น่าจะถือเป็นตัวแทนในการที่จะได้ตอบปัญหาของบรรดาผู้ที่โจมตีหลวงพ่อโจมตีวัดพระธรรมกายโดยปราศจากข้อมูล หรือไม่เคยได้เข้ามาสัมผัสความจริงใดๆ เลย...

✍ดังนั้น ในฐานะที่ผู้เขียนเป็นสาธุชนคนหนึ่งที่ได้เข้าวัดนี้และมีประสบการณ์ตรง ไม่ได้ด้นเดาหรือฟังข่าวลือหรือตกอยู่ใต้อิทธิพลของสื่อที่ปราศจากจรรยาบรรณ ผู้เขียนเพียงอยากเล่าเรื่องและประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียนเองเพื่อชี้แจงต่อท่านเจ้าของคอมเม้นต์ข้างต้นรวมทั้งผู้อ่านบางท่านที่อาจจะมีความไม่เข้าใจเพื่อเป็นข้อมูลอีกด้านหนึ่ง...ขอฝากไว้ให้นำไปพิจารณาด้วย...🤔

...เรียนคุณ S--------g

🙏ขอโทษค่ะที่พูดมาทั้งหมดนั้น... เป็นข้อเท็จจริงที่คุณได้ประสบพบเห็นด้วยตนเองโดยตรง หรือว่าฟังจากสื่อหรือที่เขาเล่าๆกันปากต่อปาก...ถ้าเป็นเช่นนั้น คุณก็เป็นคนที่ถูกหลอกได้ง่ายกว่าคนที่เข้าวัดพระธรรมกายที่คุณคิดว่าพวกเขาถูกหลอกเสียอีก...เพราะคนที่เข้าวัดนี้...เมื่อมาถึงก็มีอาหารโรงทานที่อร่อยสะอาดให้รับประทานจนอิ่ม ฟรี‼ มีห้องน้ำที่สะอาดยิ่งกว่าห้องนอนที่บ้านของคนบางคน... เพราะสาธุชนศิษย์วัดพระธรรมกายทุกคนถูกอบรมสั่งสอนจากหลวงพ่อให้มีใจสูง ....ท่านสอนลูกๆ ว่า..."ใช้ห้องน้ำแล้วต้องให้คนที่มาใช้ทีหลัง...รู้สึกเสมือนว่าเขาเป็นคนแรกเสมอ"....🚾

☝เอาแค่เรื่องเล็กๆ แค่นี้ คุณเคยได้ยินคำสอนแบบนี้ที่ไหนหรือวัดไหนบ้างไหม? ยังไม่ต้องพูดถึงธรรมะละเอียดที่สูงขึ้นไปกว่านี้...

นอกจากรับประทานอาหารฟรีแล้ว ยังมีรถรับส่งกลับบ้านฟรี โดยหลวงพ่อใช้ปัจจัยของเจ้าภาพผู้บริจาคที่หวังเอาบุญกับหลวงพ่อที่จะได้เผยแผ่ธรรมะชักจูงให้ผู้คนหันมาเข้าวัด ถือศีลเจริญสมาธิภาวนากันมากๆ เพื่อสังคมจะได้มีแต่คนดี...

    👫👬👭 ตั้งแต่ย่างเท้าเข้าวัด ทุกอย่างรอบตัว มีแต่ความสะอาดเป็นระบบระเบียบเรียบร้อย คนวัดพระธรรมกายไม่ว่าร้ายใคร ไม่เบียดเบียดประทุษร้าย มีวินัย เคารพ อดทน เอื้อเฟื้อ ไม่มีใครทิ้งขยะเรี่ยราดในวัด ถ้าคุณเข้ามาแล้วคุณทิ้งขยะ แม้เจ้าภาพเศรษฐีก็สามารถจะก้มลงเก็บขยะที่คุณทิ้งโดยที่ไม่ว่ากล่าวรุนแรง แต่จะพูดกับคุณด้วยความสุภาพแล้วชี้บอกที่ตั้งถังขยะ พร้อมลงท้ายประโยคด้วยคำว่า สาธุ อนุโมทนาบุญค่ะ/ครับ ...

☝ถามว่า คุณเคยเห็นบรรยากาศแบบนี้ที่วัดไหนบ้าง?...ถ้าคุณไม่เชื่อขอเชิญคุณมาที่วัดพระธรรมกาย พวกเราทุกคนไม่ว่าเจ้าภาพเล็กเจ้าภาพใหญ่ยินดีต้อนรับ และพร้อมจะเป็นกัลยาณมิตรให้คุณ...ขอรับรองว่าเงินแม้แต่บาทเดียวจะไม่ร่วงหล่นจากกระเป๋าของคุณเลย...หากคุณไม่ศรัทธาจะบริจาคออกไป...

...ที่คุณเห็นว่าวัดนี้ใหญ่โต กว้างขวาง สง่างาม...ทุกสิ่งนั้นล้วนสร้างขึ้นจากศรัทธาของสาธุชนที่เข้าวัดพระธรรมกาย ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นต่างได้ซาบซึ้งและเข้าถึงธรรมะที่หลวงพ่อท่านได้อบรมสั่งสอนแล้ว จิตใจได้ถูกยกขึ้นสูงและขัดเกลาแล้ว..ได้รู้ว่า คนเราเกิดมาเพื่อวัตถุประสงค์ใด และอะไรคือจุดมุ่งหมายของชีวิต ...พวกเขาจึงตั้งใจทำทานด้วยจิตที่เปี่ยมเมตตาปรารถนาจะเป็น"ผู้ให้" ตั้งใจฝึกตนให้เป็นชาวพุทธแท้ด้วยการรักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา ด้วยปัญญาที่เห็นแจ้งในธรรมะ 🌅

➡ คำว่า"หลอกขายบุญ" เป็นคำพูดประทุษร้ายเพียงเพื่อความสะใจ👺 แต่หาสาระความจริงมิได้ เพราะ✨บุญ✨แปลว่า🌸ความดี🍃 ความดีซื้อขายไม่ได้ ความดีต้องเกิดขึ้นจากภายใน จากใจที่กล่อมเกลาขัดละเอียดแล้ว เมื่อใจละเอียดใจสูงมีปัญญาภายในแล้ว จึงมีความรู้แยกแยะได้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว ‼

☝...ใจสูงแล้ว มีเมตตาแล้วจึง💕ให้ทาน✨ได้ ใจที่คิดโลภอยากได้มีแต่ความตระหนี่ ย่อมไม่สามารถที่จะเป็น "ผู้ให้" ...ความศรัทธานั้น เป็นสิ่งที่บังคับไม่ได้ซื้อขายไม่ได้ 😊

➡🙏หลวงพ่อท่านเป็นพระผู้บริสุทธิ์ ถือศีล ๒๒๗ ข้อ เคร่งครัด ฉันสองมื้อ ไม่เคยออกจากวัดไปท่องเที่ยวหรือไปต่างประเทศที่ไหนๆ เลย ท่านอยู่กุฎิเล็กๆ ที่เรียบง่าย ภายในไม่มีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งหรูหรา หลวงพ่อทำงานพระศาสนาแทบไม่มีเวลาพักผ่อนทั้งที่ร่างกายท่านเจ็บป่วย...หนักหนา... แต่ด้วยมโนปณิธานและกำลังใจอันเด็ดเดี่ยวผู้คนทั้งหลายจึงได้เห็นท่านปฏิบัติศาสนกิจอย่างไม่มีวันหยุดหย่อน🤒🤕😭

➡😳 หลวงพ่อจะ"ใช้ผ้าเหลืองหากินไปทำไม"⁉ เพราะญาติโยมที่เคารพรักศรัทธาหลวงพ่อมีมากมาย ท่านทานบดีเหล่านั้นได้ถวายภัตตาหารแด่หลวงพ่อเพื่อเลี้ยงพระเณรทั้งวัดกว่า ๓,๐๐๐ รูป รวมทั้งสาธุชนที่มาเข้าวัดฟังธรรมปฏิบัติธรรมอย่างบริบูรณ์ทุกวันตลอดทั้งเดือนทั้งปีไม่มีอดอยาก...😌

➡ หลวงพ่อจำเป็นต้อง "ทำมาหากินหลอกขายบุญ" เพื่อใส่ปากท้องสนองตัณหาความอยากอันใดอีกหรือ⁉

👨‍❤️‍👨👭คนที่เข้าวัดพระธรรมกายนับจำนวนเรือนแสนเรือนล้านนั้น มีทุกระดับตั้งแต่ปัญญาชน มันสมองของประเทศทุกสาขาอาชีพ มหาเศรษฐีทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ล้วนมีฐานะร่ำรวยมหาศาล ไปจนถึงคนชั้นกลาง รากหญ้า... พวกเขารักศรัทธาเทิดทูนหลวงพ่อจนถึงขนาดยอมตายแทนเพื่อปกป้องหลวงพ่อได้... และในบรรดาเจ้าภาพผู้มีฐานะมั่งคั่งร่ำรวย ท่านเหล่านั้นต่างพร้อมที่จะบริจาคปัจจัยหรือวัตถุสิ่งของถวายหลวงพ่อมากมายเพื่อความสุขส่วนตัวหากว่าหลวงพ่อประสงค์เช่นนั้น...👉แล้วหลวงพ่อยังจำเป็นที่จะต้องใช้ผ้าเหลืองเพื่อหากินไปทำไม...⁉

➡ เงินทุกบาททุกสตางค์ ที่เจ้าภาพบริจาคทำบุญมานั้นเกิดจากความศรัทธาในตัวหลวงพ่ออย่างแท้จริง🙏...และเงินบริจาคเหล่านั้นหลวงพ่อได้เปลี่ยนเป็นอาคารสถานที่สัปปายะสะดวกสบายรองรับผู้เข้าวัดปฏิบัติธรรม ผู้หวังมาพบความสงบร่มเย็น มาพัฒนาจิตใจ ยกระดับคุณธรรมภายใน เพื่อพัฒนาตนไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ เป็นสุจริตชน เป็นกัลยาณชน คนดีที่ไม่ประทุษร้ายเบียดเบียน...

▶👍✨หลวงพ่อ🙏เพียงหวังอยากสร้างคนดีให้แก่สังคม ประเทศชาติ...ต้องการเอาธรรมะไปสู่ใจผู้คนให้ได้มากที่สุด... เพื่อให้โลก🌎 ใบนี้เป็นโลกแห่งความรักเมตตาและสันติภาพด้วยพระธรรมคำสอนแห่ง✨องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า✨อย่างแท้จริง🌅

➡ หลวงพ่อ🙏 ไม่เคยบิดเบือนพระธรรม ท่านสอนตรงตามธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตามพระไตรปิฎกสามารถตรวจสอบได้ไม่ยากเลย ...ท่านเป็นนักเทศน์ที่สามารถนำธรรมะที่ยากมาทำให้เป็นเรื่อง😌 ฟังง่าย ~คิดง่าย ~เห็นตามได้ง่าย... ซึ่งนับว่าเป็นทักษะอันยอดเยี่ยมของท่าน ทุกคำจากคำสอนของท่านนั้น...💘👩‍❤️‍👩โดนใจ ตรึงใจ จำง่าย และนำไปปฏิบัติให้เห็นจริงได้ง่ายๆ...👨‍❤️‍👨

🌅วัดพระธรรมกาย...👍ที่นี่มีเปรียญธรรม ๙ ประโยคมากที่สุด พระเณรไม่ได้มีที่จะอยู่เฉย เช้าเอนเพลนอน...ทุกรูปต่างต้องปฏิบัติสมณกิจสมณธรรม ต้องพากเพียรขวนขวาย ศึกษาพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ฝึกตัวฝึกตนเพื่อเป็นพระดีพระแท้ ✨"บวชสองชั้น" ✨ตามคำพระเดชพระคุณหลวงพ่อ🙏

☝...ถ้าคุณได้มีโอกาสย่างเหยียบเข้ามาในวัดพระธรรมกาย คุณอาจจะอดรู้สึกไม่ได้ว่าที่นี่เหมือน🌿เมืองลับแล🌾...ที่ผู้คนห่างไกลจากความหยาบกระด้าง แก่งแย่ง ชิงดี เอารัดเอาเปรียบ เบียดเบียน ประทุษร้าย ...เป็นความแตกต่างจากโลกภายนอกที่เร่าร้อนวุ่นวาย🌍...เพียงแค่รั้วกำแพงกั้นของวัดเท่านั้น...🌅
👁 👁 คุณอยากพิสูจน์ไหม? เราขอเรียนเชิญให้คุณมา แค่มาดูอย่างเดียวเท่านั้น... เพื่อคุณจะได้คำตอบที่คุณได้พิสูจน์แล้วด้วยตาตนเองและประจักษ์แก่ใจอย่างที่ใครก็ไม่อาจ ~"หลอก"~คุณได้‼️

▶วัดพระธรรมกาย หลวงพ่อ และสาธุชนคนวัดยินดีต้อนรับคุณและทุกท่าน ซึ่งอาจจะยังไม่ได้ข้อมูลเพียงพอ...

💟 เราเข้าใจคุณดี...เพราะเราเองก็เคยเป็น 
      ผู้ที่ "ไม่เข้าใจ" มาก่อน‼

✨🙏 สาธุ อนุโมทนาคุณ S-g N ที่ทำให้เราได้มีโอกาสชี้แจงในสิ่งที่คุณและหลายๆ คนในสังคมนี้ยังคลางแคลงใจ🍃🌸...🤔

✍ แพน.พราวด์😇✨
๒๘ เมษายน ๒๕๕๙

▶ บทความมีลิขสิทธ์
     (ห้ามตัดต่อดัดแปลง)

วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2559

ทำไมถึงต้องมาทำลายวัดพระธรรมกายคะ?

 ทำไมถึงต้องมาทำลายวัดพระธรรมกายคะ?
 
วันนี้เป่าอยากจะเขียนหลายอย่างมาก  ด้วยเราเห็นอะไรหลายๆอย่างมาตลอด

        เป่าถามหน่อยเถอะค่ะ เรารู้กันอยู่ว่า  พระพุทธศาสนาทุกวันนี้เป็นอย่างไร  ศีลธรรมตอนนี้เป็นยังไง?  วัดร้างมี 5000 กว่าวัดแล้ว จำนวนพระสงฆ์ลดลงเรื่อยๆทุกปี  สามเณรยอดบวชลดลง หลังๆนี้ ถึง 3000  กว่า รุป  วิชาพระพุทธศาสนาถูกถอนออกจากระบบการศึกษา  รุ่นหลังๆ ไม่มีวิชานี้เหมือนสมัยเรายังมีเรียนกัน   แค่ถูกใส่เป็นส่วนนึงในวิชาสังคม   เด็กไทยท้องวัยเรียน เป็นอันดับ 1ของเอเชีย อันดับ 2 ของโลก  เป่ารู้แล้วก็สลดใจ

       หลวงพ่อจึงจัดโครงการต่างๆมากมาย  เพื่อมาฟื้นฟูพระพุทธศาสนา ฟื้นฟูศีลธรรมให้ขึ้นมา  ล่าสุด ก็เลยมีจัดโครงการ บวชสามเณร ล้านรูปไป  

        ถึงกับมีโฆษณาชวนบวชพระ  ในช่องโทรทัศน์ หรือตามหน้าหนังสือพิมพ์ ด้วย  ทำกันทุกทาง ยอดการบวชพระ  เราจึงเพิ่มขึ้นมา  เกิดกระแสการบวชมากขึ้น  คนก็บวชวัดแถวบ้านบ้าง  วัดต่างๆก็ครึกครื้นจัดบวชพระ บวชเณรกันไป
ยอดพระเราจึงเพิ่มขึ้น  มีพระบวชอยู่ต่อ เป็นพันๆรูปเพิ่มขึ้นมา   ก็เข้าไปจำพรรษาฟื้นฟูวัดร้างก็มี  ไปอยู่วัดที่มีพระน้อย เป็นหลวงตาอายุมาก ใครจะดูแลวัดต่ออีกก็มี  หรืออยู่วัดใกล้บ้านตัวเอง  หลากหลายแบบ แต่โดยรวม  พระพุทธศาสนาเราก็ดีขึ้น

       สิ่งเหล่านี้เป่าเห็นมาโดยตลอด   และมีอีกหลากหลายอย่างมากมาย  ไว้ค่อยมาเขียนให้ฟัง  

      ในขณะที่วัดพระธรรมกาย พยายามฟื้นฟูพระพุทธศาสนาขึ้นมา  ก็มีคนมาจ้องเล่นงาน  จัดการ  ล้มล้างเค้าให้ได้   เพื่ออะไร?  มันดีต่อพุทธศาสนาหรอ   แล้วจะมีใครมาจริงจัง ทุ่มเทเพื่อพระพุทธศาสนาแบบเค้ามั้ยคะ   ทำไมเราถึง ต้องมา จ้องทำลายเค้าให้ได้กันจัง...

      เราชาวพุทธหันหน้ามาช่วยกันดีกว่ามั้ยคะ  เรามาร่วมมือกัน  ทำให้พระพุทธศาสนาของเราเข้มแข็ง เป็นหนึ่งเดียวกัน   มาช่วยกันฟื้นฟูศีลธรรม กันขึ้นมา  มันจะดีกว่าเรามาว่าร้าย  มาทำลายกันมั้ยคะ...

เป่า

วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2559

พุทธศาสนาตอนนี้ เป็นยังไง ศีลธรรมคนตอนนี้เป็นยังไง ใครรับผิดชอบ??? ใครออกมาช่วยกันบ้าง???



ขอพูดในฐานะชาวพุทธฯคนนึง ที่รักพระพุทธศาสนา และก็ดูเหตุการณ์มาตลอดนะคะ 


เห็นที่คอนเม้น  มาว่าวัดพระธรรมกายอย่างนู้น อย่างนี้ หาเรื่องมาจัดการวัดพระธรรมกาย จะมาล้มล้างเค้า  เหมือนเป็นชาวพุทธ รักพระพุทธศาสนา


ขอถามกลับสักนิดนึงค่ะว่า  ถ้าจะล้มล้างเค้า  จะจัดการเค้า  แล้วเราช่วยทำให้พุทธศาสนาเข้มแข็งขึ้น แทนเขาได้มั้ยหละคะ ?


เอาอย่างนี้มั้ยคะ   ลองย้อนกลับมาดู  ว่าเค้าทำอะไรบ้าง  แล้วเราที่ไปว่าเค้าเนี่ย   เราทำแบบเค้าได้มั้ย


     1) จัดอบรมศีลธรรม ให้เด็กไทยค่ะ  บวชสามเณรสักแสนรูปทั่วประเทศ  อบรมปลูกฝังให้เด็กไทยรักพุทธศาสนา ได้เรียนรู้ธรรมะของพระพุทธเจ้า  นี่คือ อนาคตพระพุทธศาสนาทั้งนั้นเลยค่ะ  
มาทำแทนเขาได้มั้ยคะ?




     2)  ลองรวม พระจาก ทุกนิกาย ทั่วโลก ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน  ทุกรูปทุกนิกาย นานาประเทศ  มาร่วมแรง ร่วมใจ มีเป้าหมายช่วยกันทำให้พุทธศาสนาเข้มแข็ง  ไม่ว่านิกายอะไร จะภาวนาพุทโธ หรือสัมมาอะระหัง  ใส่ชุดอย่างไรก็ตาม ไม่เกี่ยวค่ะ เมื่อเป็นพระพุทธศาสนา  เราร่วมใจกันทำงานพระพุทธศาสนาให้เข้มแข็ง   เป็นหนึ่งเดียวกัน


มาช่วยทำแทนเขาได้มั้ยคะ?




      3) ส่งอาหาร ไทยธรรม ไปให้วัดทุกวัด  ที่อยู่ชายแดนภายใต้ 323 วัด ที่ท่านบิณฑบาตไม่สะดวก  ช่วยให้ท่านดำรงอยู่รักษาวัด ใน 4 จังหวัดได้ ไม่ให้วัดกลายเป็นวัดร้าง  

ให้มีปัจจัยไทยธรรม มีกำลังใจ ที่จะยืนหยัดปกป้องวัด ปกป้องพุทธศาสนา   ส่งไปทุกๆ เดือน ต้องช่วยต่อเนื่องด้วยนะคะ  พระทุกรุปก็ต้องฉันทุกวัน  ช่วยวัด 4 จังหวัดแทนหน่อยได้มั้ยคะ?



ถ้าไม่มีวัดพระธรรมกาย 10 กว่าปีที่ผ่านมา  พระภาคใต้จะมีใครอาสาไปช่วยดูแลบ้าง?


     4)  วัดร้างทั่วประเทศไทยเรา มีประมาณ 5000 กว่าวัดแล้วตอนนี้ เอาอย่างนี้มั้ยคะ  หาพระไปอยู่ประจำวัด พัฒนาเปลี่ยนจากวัดร้าง  เป็นวัดรุ่งเรือง ฟื้นฟูขึ้นมาหน่อย  สัก 500 วัด  แบบที่เขาทำอยู่นี้หน่อยสิคะ...




     5) ปลูกฝังศีลธรรม ให้เยาวชนไทย  สักล้านคน ส่งพระไปอบรม ในโรงเรียน ในมหาลัย  ทั่วประเทศ  ให้ดูหน่อยค่ะ  ช่วยกันอบรมศีลธรรมเยาวชนไทย




     6) พระในไทย ลดจำนวนทุกปี  ช่วยเพิ่มจำนวนพระสงฆ์เพื่อรักษาพระพุทธศาสนาให้หน่อย   จัดบวชพระ  100000 รูป ต่อเนื่อง จัดทุกๆปี


เอาแค่นี้ค่ะ แค่ส่วนหนึ่งที่เขากำลังทำอยู่ เพื่อให้พุทธศาสนาเข้มแข็ง  ฟื้นฟูศีลธรรมอยู่ตอนนี้ ถ้าจะล้มล้างเขา  แล้วจะมีใครอาสา มาทำแบบเขาแทนมั้ยคะ ? 


      พุทธศาสนาตอนนี้  เป็นยังไง  ศีลธรรมคนตอนนี้เป็นยังไง  

ที่มาว่าเขากันจัง ถ้าจะมาหักล้าง คนที่กำลังช่วยฟื้นฟูศีลธรรม ช่วยปักหลักพระพุทธศาสนาให้เข้มแข็ง ทุ่มเททั้งชีวิตจิตใจ  ทำกันอยู่    แต่เราทำแบบเค้าไม่ได้เนี่ย  

เราเองใช่มั้ย  คือ คนที่กำลังทำลายพระพุทธศาสนา  ทำให้ศีลธรรมเสื่อมถอยลงไปเรื่อยๆ  ทั้งๆที่เขากำลังพยายามฟื้นฟูกันอยู่ ก็ไปว่าเขา ไปจัดการเขา


ที่พิมพ์มาทั้งหมดนี้นะคะ  หนูแค่รู้สึกสะท้อนใจค่ะ  และอยากฝากถึงชาวพุทธ ที่เรามีใจเป็นชาวพุทธ  รักพระพุทธศาสนา  เหมือนกันว่า


เรามาช่วยกันรักษาพระพุทธศาสนากันดีกว่ามั้ยคะ ช่วยกันฟื้นฟูศีลธรรมสังคมเราให้ดียิ่งขึ้น  วัดพระธรรมกาย  เค้าก็กำลังปกป้องพระพุทธศาสนาอยู่  ทำไม เราต้องไปทำร้ายเค้าคะ...


   - เป็นธรรม - 

เรื่องสิทธิผู้ป่วยและสถานพยาบาล



    ผม นพ. บุญศักดิ์ หาญเทอดสิทธิ์ แพทย์ผู้เชียวชาญสาขานิติเวชศาสตร์
        ได้พบข้อความทางโลกโซเชียล เกียวกับอาการอาพาธของหลวงพ่อธัมมชโย ที่กล่าวว่าอาการหนักขนาดนี้ทำไมไม่ไป รพ.การรักษาตัวภายในวัดเป็นการรักษาที่ผิดหลักการแพทย์ แสดงให้เห็นว่าผู้พูดไม่มีความไม่เข้าใจในหลักกฎหมายทางการแพทย์ เรื่องสิทธิผู้ป่วยและสถานพยาบาล
       ผมในฐานะแพทย์นิติเวช จึงขออนุญาตแสดงความคิดเห็นดังนี้เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องแก่สาธารณชนครับ
      การที่ผู้ป่วยจะตกลงปลงใจในการรักษากับแพทย์คนไหน หรือไปโรงพยาบาลไหน เป็นเรื่องสิทธิของผู้ป่วยโดยแท้ ไม่สามารถไปบังคับให้ไปรักษาได้ แม้แพทย์มีหน้าที่ดูแลรักษาโดยผู้ป่วยไม่ได้ร้องขอก็ตาม แต่ไม่สามารถไปละเมิดผู้ป่วยได้ หน้าที่รักษาผู้ป่วยนี้สามารถทำได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมในกรณีที่เป็นความ จำเป็นและเร่งด่วนเท่านั้น (ภาวะฉุกเฉิน) และเมื่อผู้ป่วยยินยอมให้รักษาแล้วไม่ว่าเป็นที่ไหน แพทย์ก็รักษาได้ ไม่ขึ้นกับสถานที่ เวลา และสถานการณ์ ในป่าแพทย์ก็รักษาคนได้         

       โดยทั่วไปแพทย์มีพื้นฐานจิตใจเมตตามากอยู่แล้ว จึงมีความยินดีที่จะรักษาคนทั่วไปเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ถ้าผู้ป่วยเป็นบุคคลที่มีบุญบารมีอย่างยิ่งแล้ว แพทย์ผู้มีจิตเมตตาและมีความสามารถท่านใดทราบ ก็อยากได้บุญกันทั้งนั้น จึงไม่แปลกที่เขาเหล่านั้นจะไปรักษาหลวงพ่อธัมมชโย ถึงวัดพระธรรมกาย และเมื่อแพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมได้ตรวจรักษาผู้ป่วยแล้ว ก็ย่อมสามารถออกใบรับรองแพทย์ ที่แสดงภาวะสุขภาพของผู้ป่วยได้เสมอโดยไม่ขัดต่อหลักกฎหมายใดๆ
       ในมุมมองของการประกอบวิชาชีพเวชในสถานพยาบาลไม่ว่าของรัฐหรือเอกชน ทั้งโรงพยาบาลและคลินิก ถ้าได้จัดตั้งและจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ก็สามารถให้บริการทางการแพทย์ได้ทั้งสิ้น


บุญศักดิ์ หาญเทอดสิทธิ์ พ.บ. ว.ว.(นิติเวชศาสตร์), น.บ., น.บ.ท.