วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2564

บาตรศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธเจ้าตอนที่ ๒ บาตรพุทธเจ้าบริขารในดอกบัวต้นกัป ?

 

บาตรศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธเจ้า

 

ตอนที่ ๒ บาตรพุทธเจ้าบริขารในดอกบัวต้นกัป ?

Gautama (พระพุทธเจ้า) เสด็จออกบวชจากพระราชวัง ศตวรรษที่ 2 – พบใน Loriyan Tangai ประเทศปากีสถาน (เดิมชื่อ Gandhara); หินดินดานดำ 48×54 ซม. พิพิธภัณฑ์อินเดีย กัลกัตตา

ที่มาภาพ https://www.pinterest.com/pin/515943701065019788/

 

เสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์

ตามหลักฐานพุทธประวัติ เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะเจริญวัย ได้รับการดูแลอย่างดีจากพระบิดาสุทโธทนะ จนบารมีและญาณแก่กล้า ได้เห็นเทวทูตและนักบวช มีใจน้อมไปในการออกจากกาม แสวงหาบรรพชานั้นในคัมภีร์อรรถกถามโนรถปูรณี อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต กล่าวไว้ถึงตอนนี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า “ฝ่ายพระโพธิสัตว์ทรงเจริญวัยแล้ว เสวยสมบัติเหมือนเทพเจ้า เมื่อพระญาณแก่กล้าแล้ว ทรงเห็นโทษในกาม เห็นอานิสงส์ในการออกจากกาม จึงในวันที่พระราหุลกุมารประสูติ มีนายฉันนะเป็นพระสหาย ทรงขึ้นม้ากัณฐกะเสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ ทางประตูที่เทวดาเปิดให้ เสด็จเลยไป ๓ ราชอาณาเขต โดยตอนกลางคืนนั้นนั่นเอง ทรงบรรพชาที่ฝั่งแม่น้ำอโนมานที พอทรงรับธงชัยแห่งพระอรหันต์ ที่ท้าวฆฏิการมหาพรหมนำมาถวายเท่านั้น เป็นเหมือนพระเถระ ๑๐๐ พรรษา”


ที่มาภาพ https://www.pinterest.com/pin/577516352213176433/

ที่มาของบาตรดินใบแรก

เมื่อครั้งเจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกบวช ทรงตัดโมลีถือเพศบรรพชา ณ ฝั่งแม่น้ำอโนมา ฆฏิการพรหมได้มาถวายอัฏฐบริขาร เมื่อทรงนุ่งห่มผ้ากาสาวะอธิษฐานเพศเป็นบรรพชิตแล้วเดินทางไปตามลำดับจนถึงกรุงราชคฤห์ ก็ทรงใช้บาตรดินใบนั้น ซึ่งถือเป็นภาชนะสำคัญในการภิกขาจารหรือเดินรับอาหารจากผู้ศรัทธาเพื่อดำรงชีพ เช่นเดียวกับภิกษุทั้งหลาย

แผนที่กรุงราชคฤห์ เส้นทางก่อนตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า

ที่มาภาพ http://bangkrod.blogspot.com/2014/01/blog-post_7.html

จากภาพสันนิฐานว่า พระองค์น่าจะได้เสด็จมาจากอโนมานทีแล้วทรงเดินทางผ่านสวนป่าเวฬุวันอันน่ารื่นรมย์ เข้าเมืองราชคฤห์ด้านทิศเหนือฝั่งประตูป่าสีตวัน จนชาวเมืองราชคฤห์แตกตื่นโจษจันกันในร่างกายอันผ่องใสและบุคลิกที่สงบสำรวมสง่างามน่าเลื่อมใสยิ่งของพระองค์ ในขณะที่เสด็จเที่ยวรับภิกขาจากชาวเมืองราชคฤห์

 


 บาตรพุทธเจ้าบริขารในดอกบัวต้นกัป ?

บาตรดินของพระพุทธเจ้านั้น มีสิ่งที่น่าสนใจมากคือ ที่มาของบาตรดินใบแรก ซึ่งเป็นหนึ่งในบริขาร ๘ ที่พรหมนำมาถวาย นับเป็นบริขารพิเศษอันสำเร็จด้วยฤทธิ์ซึ่งเกิดในกลีบปทุมของดอกบัวที่บังเกิดขึ้นครั้งแรก ในเวลาที่กัปเกิดขึ้นและเกิดเป็นแผ่นดินยังตั้งอยู่ และดอกบัวนั้นยังเป็นนิมิตหมายว่าจะมีพระพุทธเจ้าบังเกิดขึ้นกี่พระองค์ในภัทรกัปนั้นๆ อีกด้วย

หลักฐานบริขารที่เกิดในกลีบปทุม มีในคัมภีร์วิสุทธชนวิลาสินี อรรถกถาขุททกนิกาย อปทานได้กล่าวถึงพระโพธิสัตว์หลังจากเป็นพระเวสสันดรไว้ว่า “จุติจากอัตภาพนั้นแล้วบังเกิดในภพดุสิต จุติจากภพดุสิตนั้นด้วยการอาราธนาของเหล่าเทวดา บังเกิดในสักยตระกูล  เพราะญาณแก่กล้าจึงละทิ้งราชสมบัติในสกลชมพูทวีปเสีย แล้วตัดกำพระเกศาให้มีปลายเสมอกัน ด้วยดาบที่ลับไว้อย่างดี ที่ฝั่งแม่น้ำอโนมานที รับบริขาร ๘ อันสำเร็จด้วยฤทธิ์ซึ่งเกิดในกลีบปทุม ในเวลาที่กัปยังตั้งอยู่ซึ่งพระพรหมนำมาให้แล้วบรรพชา เพราะญาณทัสสนะคือพระโพธิญาณยังไม่แก่กล้าก่อน จึงไม่รู้จักทางและมิใช่ทางแห่งความเป็นพระพุทธเจ้า”

หลักฐานบาลีอรรถกถา “อโนมานทีตีเร สุนิสิเตนาสินา สมกุฏเกสกลาปํ           ฉินฺทิตฺวา พฺรหฺมุนา อานีเต อิทฺธิมเย กปฺปสฺส สณฺฐานกาเล ปทุมคพฺเภ นิพฺพตฺเต อฏฺฐ- ปริกฺขาเร ปฏิคฺคเหตฺวา ปพฺพชิตฺวา”

แผนที่กรุงราชคฤห์ จุดสำคัญๆ ในสมัยพุทธกาล

            เมื่อข่าวนั้นได้ไปถึงพระเจ้าพิมพิสาร จึงเสด็จทันมาพบพระโพธิสัตว์ที่เงื้อมเขาบัณฑวะ ด้านทิศตะวันตกของกรุงราชคฤห์ ทรงเสวยพระกระยาหารที่เงื้อมเขาชื่อปัณฑวะ และประทานปฏิญญาแด่พระราชา เมื่อประทานปฏิญญา ๕ ประการแด่พระเจ้าพิมพิสาร หลังจากที่พระราชาจะขอถวายราชสมบัติ แต่พระโพธิสัตว์ทรงปฏิเสธไม่ขอรับ เพราะพระองค์มีเป้าหมายเพื่อแสวงหาโมกขธรรมหาทางพ้นทุกข์จากสังสารวัฏนั้น

ที่มาภาพ https://www.pinterest.com/pin/428123508326167921/

 

ศึกษาธรรมจนมีความรู้เสมออาจารย์

หลังพระองค์ก็ได้ไปศึกษาจากอาจารย์อาฬารดาบสและอุทกดาบส ซึ่งคาดว่าน่าจะมีอาศรมอยู่ในบริเวณภูเขากรุงราชคฤห์นั้นเอง จนสามารถบรรลุธรรมได้เหมือนอาจารย์ ถูกชักชวนให้บริหารหมู่คณะและแต่งตั้งให้เป็นศิษย์เสมอกับตนและบูชาด้วยการบูชาอย่างยิ่ง แต่พระองค์มีความคิดเห็นว่า ธรรมนี้ไม่เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย เพื่อคลายกำหนัด เพื่อดับสนิท เพื่อสงบระงับ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อนิพพาน ย่อมเป็นไปเพียงเพื่ออุบัติในอากิญจัญญายตนพรหมเท่านั้น พระองค์ไม่พอใจธรรมนั้น เบื่อจากธรรมนั้น จึงหลีกไปที่อุรุเวลาเสนานิคม


ที่มาภาพ https://www.dmc.tv/expo/show.php?id=19758

 

พระปัญจวัคคีย์ออกบวชตาม

หลังจากนั้นพระองค์ทดลองบำเพ็ญทุกกรกิริยาหาทางตรัสรู้ด้วยพระองค์เองถึงเกือบ ๖ ปี แต่ก็ไม่พบหนทางตรัสรู้ จึงได้กลับมาดำเนินทางสายกลางฉันภัตตาหารเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นใหม่ ทำให้พระปัญจวัคคีย์ซึ่งพระโกณฑัญญะเป็นหัวหน้าที่ได้ออกบวชตามเจ้าชายสิทธัตถะไม่เข้าใจคิดว่าพระองค์ทรงคลายความเพียรเวียนมาเป็นคนมักมาก จึงได้หนีไปอยู่ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน


ที่มาภาพ https://www.dmc.tv/expo/show.php?id=19758

 

บาตรดินได้อันตรธานหายไป

คืนก่อนวันวิสาขะพระองค์ทรงสุบินหลายอย่างและทรงทำนายด้วยพระองค์เองว่าจะตรัสรู้ และเมื่อถึงรุ่งเช้า จึงไปประทับนั่งที่ต้นนิโครธริมฝั่งแม่น้ำ กระทั่งนางทาสีมาพบสำคัญว่าเป็นเทวดา จึงได้ไปบอกนางสุชาดาให้นำข้าวมธุปายาสมาถวาย เนื่องจากบาตรดินได้อันตรธานหายไปแล้ว[1][2] ในขณะนั้นพระองค์จึงทรงรับถาดทองใส่ข้าวมธุปายาสของนางสุชาดาในช่วงเช้าของวันเพ็ญเดือนวิสาขะ ปรากฏหลักฐานคล้ายกันในคัมภีร์อรรถกถามธุรัตถวิลาสินี และวิสุทธชนวิลาสินี ขุททกนิกาย อปทาน ว่า เพราะบาตรได้อันตรธานหายไปในวันรับข้าวปายาส พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงดำริว่า พระตถาคตเจ้าทั้งหลายย่อมไม่รับที่มือ เราจะรับที่อะไรหนอ (ภควา ปายาสปฏิคฺคหณทิวเสเยว ปตฺตสฺส อนฺตรหิตตฺตา "น โข ตถาคตา หตฺเถสุ ปฏิคฺคณฺหนฺติ, กิมฺหิ นุ โข อหํ ปฏิคฺคเณฺหยฺยนฺติ จินฺเตสิ.)


ที่มาภาพ https://www.dmc.tv/expo/show.php?id=19758

หลังจากนั้นได้สรงสนานพระวรกายที่ท่าน้ำสุปดิฏฐ์เสร็จก่อนแล้วจึงปั้นข้าวมธุปายาสเป็น ๔๙ ก้อนแล้วฉัน จากนั้นลอยถาดทองที่แม่น้ำเนรัญชราอธิฐานจิต ถ้าจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าขอให้ถาดทองลอยทวนกระแสน้ำ และถาดทองได้ลอยไปทวนกระแสน้ำ

ที่มาภาพ https://www.pinterest.com/pin/663506957580286566/

 ช่วงเวลาเย็น จึงได้เดินทางมาตามริมแม่น้ำเนรัญชรา พบต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่พุทธคยา และได้นั่งสมาธิบนรัตนบัลลังก์ จนค้นพบทางสายกลางบรรลุญาณ ๓ ตามลำดับตั้งแต่ปฐมยามและตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในปัจฉิมยามรุ่งอรุณขึ้นวันใหม่พอดี                                                                                 

 โปรดติดตามตอนต่อไป

ตอนที่ ๓ บาตรสิลามีที่มาอย่างไร ?https://panyainpang09.blogspot.com/2021/06/blog-post_30.html

ตอนที่ ๔ บาตรพระพุทธเจ้าช่วยปัดเป่าอุปัทวะ

https://panyainpang09.blogspot.com/2021/07/blog-post.html



[1] ภควา ปายาสปฏิคฺคหณทิวเสเยว ปตฺตสฺส อนฺตรหิตตฺตา "น โข ตถาคตา หตฺเถสุ ปฏิคฺคณฺหนฺติ, กิมฺหิ นุ โข อหํ ปฏิคฺคเณฺหยฺยนฺ"ติ จินฺเตสิ. เพราะบาตรได้อันตรธานหายไปในวันรับข้าวปายาส พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงดำริว่า พระตถาคตเจ้าทั้งหลายย่อมไม่รับที่มือ เราจะรับที่อะไรหนอ.

[2] ภควา ปายาสปฏิคฺคหณทิวเสเยว เทวทตฺติยสฺส ปตฺตสฺส อนฺตรหิตตฺตา "น โข ตถาคตา หตฺเถสุ อาหารํ ปฏิคฺคณฺหนฺติ, กิมฺหิ นุ โข อหํ อิมํ

ปฏิคฺคเณฺหยฺยนฺ"ติ จินฺเตสิ.เพราะเหตุที่บาตรที่เทวดาถวาย ครั้งทรงรับข้าวมธุปายาส อันตรธานไป พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระดำริว่า

พระตถาคตทั้งหลาย ย่อมไม่รับอาหารด้วยมือเปล่า เราจะพึงรับอาหารนี้ได้อย่างไรหนอ.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น