หลังกรมสอบสวนพิเศษ (ดีเอสไอ) มีมติดำเนินคดีกับพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จนเกิดกลุ่มทั้งหนุนและต่อต้านมติดังกล่าว ต่อมาเมื่อวันที่ 11 พ.ค. คณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ได้ออกแถลงการณ์คณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย เรื่อง ขอความเป็นธรรมให้พระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) ว่าที่ผ่านมาวัดพระธรรมกายปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายมาตลอด แต่บัดนี้ได้มีเหตุอันเนื่องด้วยคดีความที่พาดพิงมายังพระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ทำให้คณะศิษยานุศิษย์ฯ เกิดความห่วงใยและกังวลใจต่อขั้นตอนการดำเนินคดีของพนักงานสอบสวน กล่าวคือ
คดีนี้เป็นการดำเนินคดีซ้ำซ้อน เนื่องจากมีการกล่าวหา และสอบสวนโดยพนักงานสอบสวนและส่งสำนวนการสอบสวนไปยังอัยการเพื่อพิจารณาแล้ว การสอบสวนของพนักงานสอบสวนจึงเสร็จสิ้นแล้วตามกฎหมาย ไม่สามารถสอบสวนในมูลคดีเดิมได้อีก แต่ต่อมาพนักงานสอบสวนได้แยกเอาข้อเท็จจริงในคดีเดิมบางส่วน ซึ่งสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วมาสอบสวนเป็นคดีใหม่ โดยอ้างว่ามีผู้กล่าวหาคนเดิมซ้ำกับคนในคดีก่อน ซึ่งไม่ใช่ผู้เสียหายมากล่าวโทษอีก จึงถือว่าเป็นการสอบสวนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ส่วนกรณีการออกหมายเรียกพระเทพญาณมหามุนี ครั้งที่ 1 ปรากฏสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้น คือมีสื่อมวลชนบางแห่งกลับได้รับและนำหมายไปเผยแพร่สู่สาธารณชน ก่อนที่หมายเรียกอย่างเป็นทางการจะมาถึงมือของผู้รับ ส่วนในการขอเลื่อนหมายเรียกครั้งที่ 2 ปรากฏเหตุการณ์อันน่าห่วงใยว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ทางพนักงานสอบสวนได้อนุญาตให้ผู้ถูกกล่าวหา คือพระเทพญาณมหามุนี เลื่อนการเข้าไปให้ปากคำ เนื่องจากทราบว่าผู้ถูกกล่าวหามีอาการอาพาธ แต่เมื่อถึงเวลาช่วงบ่ายในวันดังกล่าวกลับมีการปฏิเสธ โดยเปลี่ยนให้ผู้กล่าวหา มารายงานตัวก่อนเวลา 16.00 น. มิฉะนั้นทางพนักงานสอบสวนจะขอศาลอนุมัติออกหมายจับทันที ซึ่งเป็นการตัดสินใจโดยไม่มีการส่งแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เข้ามาตรวจสอบอาการของผู้ถูกกล่าวหา
ด้วยสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น เป็นเหตุให้คณะศิษยานุศิษย์ฯเกิดความไม่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม จึงต้องออกมายื่นหนังสือผ่านหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมประจำจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ เพื่อขอความเป็นธรรม โดยขอให้ศูนย์ดำรงธรรมได้เข้ามาตรวจสอบขั้นตอนในการปฏิบัติการดังที่กล่าวมาแล้ว
ด้านวัดพระธรรมกาย ได้ส่งข่าวการเคลื่อนไหวของคณะลูกศิษย์วัดพระธรรมกายในพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งในต่างประเทศ แจ้งไปยังสื่อมวลชน โดยมีรายงานว่าวันที่ 11 พ.ค. ทั้งใน กทม. และจังหวัดต่างๆ กลุ่มชาวพุทธและคณะลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย รวมตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมให้พระธัมมชโย อาทิ ใน กทม. ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงาน ก.พ. นายมาณพ เค้ามาก ประธานกลุ่มชาวพุทธรักสันติ กทม. เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.เพื่อขอความเป็นธรรมให้แก่พระธัมมชโย พร้อมชี้แจงกรณีข่าวลือที่พระธัมมชโยสนับสนุนพรรคเพื่อไทยว่าไม่เป็นเรื่องจริง เพราะวัดมุ่งสอนศีลธรรมเพื่อสร้างคนดีไม่มีเป้าหมายในทางการเมือง
ส่วนที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นางวนิดา นิลโมจน์ ประธานชมรมสัมมาอรหังภูเก็ต นำสมาชิกกว่า 50 คน มายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมให้กับพระธัมมชโยเช่นกัน โดยมีนายประพันธ์ ขันธ์พระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือเพื่อเสนอต่อนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผวจ.ภูเก็ต ดำเนินการต่อไป
ที่ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ นายวิชิน โสมอินทร์ ประธานชมรมฟื้นฟูศีลธรรม จ.อำนาจเจริญ นำสมาชิกมายื่นหนังสือผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฯ ขณะที่ในต่างประเทศ กลุ่มชาวพุทธและคณะลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ในกรุงสตอกโฮล์ม โกเธนเบิร์ก อุพซอลา และแยฟเลอ ได้ไปเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้แก่พระธัมมชโยที่สถานเอกอัครราชทูต ในกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน และที่องค์การแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศสวีเดน ขณะที่ตัวแทนกลุ่มชาวพุทธ ยูเอสเอ ปกป้องพระพุทธศาสนา สาขา นอร์ทเธิร์น แคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ไปยื่นหนังสือที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส
Cr. http://www.thairath.co.th/content/619035
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น